โฆษก รบ. ย้ำ 1 มิ.ย. ‘คนไทย’ ไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass – กักตัว

โฆษก รบ. ย้ำ 1 มิ.ย. ‘คนไทย’ ไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass – กักตัว

Thailand Pass – วันที่ 29 พ.ค. 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ ไทยจะปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศอีกครั้งตามมติ ศบค. โดยยกเลิกการกักตัวทุกรูปแบบ สำหรับคนไทยไม่ต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass และไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเข้าประเทศ แต่ชาวต่างชาติยังต้องลงทะเบียนในระบบดังกล่าว

โดยผู้ที่ได้รับวัคซีนตามข้อกำหนด 

ให้แนบหลักฐานวัคซีนพร้อมกับเอกสารประกันสุขภาพวงเงินขั้นต่ำ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกรณีที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนไม่ครบตามข้อกำหนด ให้แสดงหลักฐานการตรวจโควิด-19 ได้ทั้งแบบ Professional ATK หรือ RT-PCR ที่ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ขณะที่จุดผ่านแดนทางบกทุกจุดก็จะเปิดภายในวันที่ 1 มิถุนายนนี้

นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า “รัฐบาลโดย ศบค. ได้ปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศตามสถานการณ์มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ก็ได้ยกเลิก Test & Go ไปแล้ว ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยสถิติผู้เดินทางเข้าประเทศในเดือน พ.ค.65 เฉลี่ยถึงวันละ 20,000 คน ทั้งหมดนี้จึงไม่ตรงกับสิ่งที่ฝ่ายค้านพยายามพูดว่ารัฐบาลละเลยภาคการท่องเที่ยว

นอกจากนี้จากแนวโน้มการฟื้นตัวที่เริ่มเห็นชัด ททท.จึงคาดการณ์ว่าในช่วงโลว์ซีซั่น ตั้งแต่ พ.ค.-ก.ย. จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยไม่น้อยกว่า 500,000 คนต่อเดือน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากตลาดระยะใกล้ ส่วนช่วงไฮซีซั่นซึ่งตรงกับไตรมาสที่ 4 ตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค. จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน เพิ่มตลาดระยะไกลทั้งยุโรปและสหรัฐฯ

และหวังจะเห็นนักท่องเที่ยวจีน เริ่มกลับมาไทยปลายปีนี้ต่อไปถึงเทศกาลตรุษจีนปี 2566 ซึ่งจะส่งผลให้ตลอดปี 2565 มีโอกาสสูงที่นักท่องเที่ยวจะมาไทย 7-10 ล้านคน สร้างรายได้รวม 1.5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นการฟื้นตัว 50% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนวิกฤตโควิด-19” 

อนุทิน เผยหากควบคุมสถานการณ์โควิดหลัง 1 มิ.ย. ได้ สธ. เล็ง ยกเลิกไทยแลนด์พาส แนะไม่จำเป็นไม่ต้องถอดแมสก์ ป้องกันโควิดระบาด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้กล่าวก่อนการเปิดผับบาร์ 1 มิ.ย. นี้ ว่าหากหลังเปิดประเทศสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตามปกติ ทางรัฐบาลพร้อมยกเลิกไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) สำหรับชาวต่างชาติเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า

โดยนายอนุทินกล่าวว่า “เราคิดว่าถ้าเกิดสถานการณ์ควบคุมได้ตามปกติดี เราต้องยกเลิกไทยแลนด์ พาส ทั้งหมด เพื่อให้คนต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น เศรษฐกิจก็จะต้องยิ่งดีขึ้น คนไทยก็เร่งฉีดบูสเตอร์โดสเท่านั้นเอง”

ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ กำชับหมดแล้วถึงวิธีที่ให้มีการทำสถานที่ การทำบรรยากาศต่างๆ ให้ปลอดภัย ทุกคนรับทราบหมด ในส่วนประเด็นของการถอดแมสก์นั้น นาย อนุทิน กล่าวว่า ถ้าไม่จำเป็นก็ยังไม่ต้องถอดแมสก์ต่อให้ไม่มีโควิด-19 ถ้าใส่แมสก์ได้ในที่ชุมชน ที่มีการชุมนุมของผู้คนเป็นจำนวนมาก ใส่แมสก์ก็เป็นสิ่งที่ดี เรื่องการถอด หรือการใส่ เราก็ประเมินเอาแต่ละคน ถ้าอยู่กับคนเยอะๆ ก็ใส่ คนอยู่กันน้อยๆ แล้วรู้ว่าแต่ละคนเป็นคนใกล้ชิดก็ไม่ต้องใส่ อย่างนี้เป็นต้น

‘ทนายเดชา’ เดินหน้าเอาผิด ‘เต้ มงคลกิตติ์’ ลั่นเตรียมส่งเรื่องขับพ้น ส.ส.

ทนายเดชา ล่าสุด ยื่นหนังสือเอาผิด ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ ปมโทรขู่ทำร้าย เตรียมเดินหน้าร้อง ชวน หลีกภัย ปรธะานสภาฯ ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด ขับพ้น ส.ส. นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา” อดีตทนายความ คดีแตงโม นิดา เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) พร้อมเข้าแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กรณีถูก นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ โทรศัพท์ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย หากยังไม่หยุดวิพากษ์วิจารณ์คดีการเสียชีตของดาราสาว

โดย ทนายเดชา เผยล่าสุด หลังจากเดินทางเข้าแจ้งความ ในวันนี้ (30 พ.ค.65) ว่า มาแจ้งความดำเนินคดี นายมงคลกิตติ์ ในข้อหาความผิดต่อเสรีภาพ ตามมาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น

หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ซึ่งนายเดชาได้นำหลักฐานคลิปเสียงการสนทนามาให้กับพนักงานสอบสวนด้วย

ขณะเดียวกันอดีตทนายความ นางภนิดา ยังกล่าวอีกว่าการที่ตนไลฟ์สดวิพากษ์วิจารณ์คดีของแตงโม นิดา เป็นสิทธิ์ตามกฏหมายที่สามารถทำได้ แต่พอถูกนายมงคลกิตติ์ข่มขู่ ทำให้ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัย และหลังจากนี้เตรียมจะไปร้องเรียนต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.

เพื่อดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับพฤติกรรม และจริยธรรมนักการเมือง ของนายมงคลกิตติ์ที่เป็นถึง ส.ส. แต่กลับมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ข่มขู่ประชาชน อีกทั้งจากการตรวจสอบยังพบว่า มีบุคคลที่ถูกนายมงคลกิตติ์ข่มขู่อีกหลายคน ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จะทำให้นายมงคลกิตติ์พ้นสภาพความเป็น ส.ส. เพราะพฤติกรรมเช่นนี้ไม่เหมาะที่จะเป็น ส.ส.

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป